Posted in Prompt

[RDU – Wilfred Elliot] คำถามต่อออริจันัลคาร์แรคเตอร์แบบละเอียดสุด ๆ

Credit: Tag

Note: วิลเฟรดเป็นตัวละครที่ได้นำไปเล่นในคอมมู Rabbit Doubt

 

 

 

  1. ชื่อเต็มของออริคืออะไร? ทำไมถึงเลือกชื่อนี้ มีความหมายอะไรไหม?

Wilfred Elliot (วิลเฟรด เอลเลียต)

เรารู้ว่าเราอยากสร้างตลค.ไอริช แต่เราอยากให้ตระกูลของเอลเลียตมีเชื้อสาย Anglo-Saxon ที่มาอยู่ที่ไอร์แลนด์ และมีความเป็นบริติช ก็เลยไม่ได้คิดจะตั้งชื่อไอริชเป็นพิเศษ

ปกติเลือกชื่อลูกในคอมมูค่อนข้างจะมีเหตุผลเป็นความชอบส่วนตัวมากกว่าจะคิดจริงจังมาก วิลเฟรดเป็นชื่อตัวละครปู่แก่ ๆ คนหนึ่งจาก Doctor Who ชื่อนี้อยู่ในหัวเรามาพักหนึ่งแล้ว จำเป็นพิเศษเพราะ David Tennant (คนแสดงเป็น 10th Doctor ที่ออกฉากกับตลค.ปู่วิลเฟรดนี้) ไปแต่งงานแล้วก็ตั้งชื่อลูกว่าวิลเฟรด ซึ่งไม่แน่ใจเดวิดว่าจงใจหรือไม่ แต่ปู่วิลเฟรดเป็นตัวละครที่น่ารัก เราชอบ

เลือกชื่อเอลเลียตเพราะเป็นชื่อที่เพราะดี ถูกใจ

สุดท้ายพบว่าชื่อ Wilfred มาจาก Old English ที่แปลว่า “will” กับ “peace” สรุปคือ desiring peace (ปรารถนาความสงบ) ซึ่งก็เหมาะกับคาร์วิลเฟรดจนน่ากลัว… ส่วนเอลเลียตก็แปลว่า องค์พระเจ้าสูงสุด, พระยะโฮวาห์คือพระเจ้า

 

  1. มีคำนำหน้าชื่อหรือยศอะไรไหม? ทำไมถึงได้มี?

‘นาย’ ตามธรรมดา

 

  1. ออริมีวัยเด็กที่ดีไหม? ความทรงจำดีๆ ในวัยเด็กคืออะไร? แล้วอะไรคือความทรงจำที่เลวร้าย?

เรามองว่าวัยเด็กของวิลเฟรดไม่ถึงกับเลวร้าย แต่จากการเลี้ยงดูแล้วมีส่วนทำให้วิลเฟรดไม่ค่อยเข้าใจความสัมพันธ์แง่บวกกับสิ่งมีชีวิตเท่าไร เพราะส่วนใหญ่อยู่คนเดียว และไม่มีพี่เลี้ยงที่คุ้นเคยเป็นพิเศษ (ทั้งที่มีหลายคน พี่เลี้ยงเปลี่ยนกะดูแลไปเรื่อย ๆ  พ่อแม่ไม่ให้คุยกับวิลเฟรดมาก เพราะกลัวลูกจะไปติดผู้ใหญ่ที่เป็นคนนอกมากเกินไป)

ความทรงจำดี ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงเวลาที่ได้คุยกับพี่สาว กับตอนที่ได้เริ่มเล่นกับเพื่อนข้างบ้านคนหนึ่ง (ผู้หญิง… เหมือนจะไม่เคยบอกชื่อในโรลหรือประวัติเลยรึเปล่านะ ชื่อเคทลิน [Caitlin]) ตอนรู้จักกับเคทลินน่าจะอายุราว ๆ ห้าหกขวบ ซึ่งเป็นเพื่อนคนเดียวตลอดวัยเด็ก (ไม่ได้เปิดรับเพื่อนคนอื่นเพราะเห็นว่าไม่จำเป็น บวกกับไม่ชอบปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นก็เลยไม่เปิดใจ ปฏิสัมพันธ์ไม่เก่งด้วยล่ะ) ที่พิเศษมากคือตอนที่นาน ๆ ครั้งจะได้ไปเที่ยวไร่สตรอเบอร์รี่ของที่บ้านกับเคทลิน แล้วก็มีคุณป้าที่ไร่จะเอาสตรอเบอร์รี่มาใส่ขวดโหลให้ทานเยอะแยะเลย นอกนั้นคือชอบวิ่งเล่นบนทุ่งมาก (เคยวิ่งเล่นเฉพาะกับเคทลินไม่ก็วิ่งคนเดียว)

ไม่ค่อยมีอะไรที่ตัวเองมองว่าเลวร้าย แต่เป็นเด็กอ่อนไหวที่น้ำตาซึมง่าย จำได้ว่าต้องฝืนนิดหน่อยจากการจะถูกสอนให้ควบคุมอารมณ์ตัวเองประจำ ไม่ให้กินมากไป เดี๋ยวอ้วน (สมัยก่อนชอบของหวาน ฟาสต์ฟู้ดและน้ำอัดลมมาก) ต้องอยู่นิ่ง ๆ อะไรแบบนั้น จะถูกสอนเกี่ยวกับการควบคุมในตัวเองซะส่วนใหญ่

 

  1. มีความสัมพันธ์ยังไงกับพ่อแม่? อะไรคือความทรงจำดีๆ และไม่ดีกับพ่อแม่? ออริรู้จักพ่อแม่ของตัวเองทั้งคู่ไหม

ความทรงจำดี ๆ คือตอนได้ของขวัญโน่นนี่ กับมีพ่อแม่พาไปดูหนังบ้าง

ความทรงจำไม่ดีส่วนใหญ่จะเป็นช่วงที่เริ่มเก็บตัวอยู่บ้านกับตอนที่เป็น eating disorders (เป็นสองอย่างคือ anorexia nervosa กับ bulimia nervosa) ตอนพ่อแม่เคยพยายามบังคับให้ออกไปข้างนอก จนเป็น panic attack

ความทรงจำไม่ดีส่วนใหญ่จะเป็นประมาณว่า ตอนนั้นคือรู้ว่าที่บ้านให้ความใส่ใจ แต่สิ่งที่ต้องการและไม่ต้องการมันดูขัดแย้งไปหมด มีครั้งหนึ่งที่นอนหมดแรงอยู่ พ่อมาขอร้องให้ทานอาหาร แต่ตัวเองก็ปฏิเสธ รู้สึกผิดที่ท่านไม่ลง แต่ถ้าทานก็จะรู้สึกผิดเพราะขยะแขยงตัวเอง

รู้จักพ่อแม่ตัวเองทั้งคู่นะ รู้ว่าเป็นคนเก่งแต่ยุ่งมาก

 

  1. ออริมีพี่น้องไหม? ชื่ออะไร? มีความสัมพันธ์กันยังไง? ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องตั้งแต่เด็กจนโตเปลี่ยนแปลงไปไหม

มีพี่สาวชื่เอลิซาเบธ วิลเฟรดเรียกว่าพี่ลิซซี่ มีความสัมพันธ์แบบไม่ห่างเหินแต่ไม่ได้ใช้เวลาด้วยกันบ่อย เวลาคุยกับลิซซี่วิลเฟรดจะรู้สึกเหมือนคุยภาษาเดียวกัน แต่ไม่แตะตัวกันเท่าไร ไม่เคยกอด ไม่เคยหอม

ความสัมพันธ์ตั้งแต่เด็กจนโตไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนัก คือในหมู่คนที่บ้าน วิลเฟรดได้คุยกับลิซซี่บ่อยที่สุด สำหรับการเก็บตัวและเรื่อง ED ลิซซี่เป็นคนที่เข้าใจดีที่สุดในบ้าน แต่ยังไงก็ไม่ค่อยได้ใช้เวลาด้วยกันเท่าไร

 

  1. ออริเป็นยังไงตอนอยู่ที่โรงเรียน? สนุกกับชีวิตในโรงเรียนไหม? เรียนจบไหม? เรียนถึงระดับไหน? ชอบเรียนวิชาอะไร? ไม่ชอบวิชาอะไร?

เงียบตอนอยู่โรงเรียน ไม่ได้สนุกเท่าไร ใช้เวลากับเคทลินก็ไม่ได้สะดวกขนาดนั้น คิดว่าเป็นสถานที่ที่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกับคนอื่นเยอะเกินไป

เริ่มเรียน home school ตั้งแต่สมัยม.ต้น เรียนมหาลัยไม่จบ (ยังอยู่ระหว่างการเรียน distance learning courses กับมหาลัยนอกไอร์แลนด์ตอนที่ไปมีตติ้ง) อนึ่งตายก่อนเรียนจบ

ชอบวิชาประเภท visual arts โดยเฉพาะ painting และไม่มีวิชาที่ไม่ชอบ

 

  1. ตอนเด็กมีเพื่อนเยอะไหม? แล้วมีเพื่อนที่คบกันตั้งแต่เด็กจนโตไหม?

มีแค่เคทลินคนเดียว คบกันจนกระทั่งเคทลินหายสาบสูญไปช่วงมัธยมต้น

 

  1. ตอนเด็กเคยเลี้ยงสัตว์ไหม? ตอนโตเลี้ยงไหม? ชอบสัตว์รึเปล่า?

ไม่เคย ตอนโตก็ไม่เลี้ยง ไม่มีความรู้สึกว่าชอบหรือไม่ชอบสัตว์เป็นพิเศษ

 

  1. สัตว์เชื่องกับออริไหม? ออริเข้ากับสัตว์ได้ดีไหม?

ไม่ได้ยุ่งกับสัตว์เพียงพอจนไม่รู้ ก็ทั่ว ๆ ไป ขึ้นอยู่กับสัตว์ด้วยว่าเชื่องกับคนทั่วไปไหม

 

  1. ออริชอบเด็กไหม? เด็กชอบออริไหม? ออริมีลูกหรืออยากมีลูกไหม? ออริจะเป็นพ่อแม่แบบไหน? หรือเป็นพ่อแม่อุปถัมป์/พี่เลี้ยงเด็ก/อื่นๆ แบบไหน?

วิลเฟรดชอบเด็ก แต่ไม่ค่อยได้ยุ่งกับเด็ก ๆ เท่าไร

เท่าที่เคยคุย เด็กก็ดูโอเคกับวิลเฟรดถึงจะไม่ได้ชอบเป็นพิเศษ

อยากมีลูก เป็นคนประเภทที่ชอบ the idea of having a child แต่ว่าไม่มีแผนเรื่องแต่งงานเลย ไม่ได้คิดเรื่องมีแฟนด้วย ชอบแต่จุดหมายปลายทางเรื่องการมีลูก แต่จากการป่วย ED ทำให้มีผลกระทบเรื่องเป็นหมัน คือก็คงมีลูกที่เป็นสายเลือดตัวเองไม่ได้ ถ้ามีความกล้าพอคงจะอุปถัมภ์ แต่ไม่มีน่ะ

ถ้าได้เป็นพ่อคนคงไม่มีลักษณะความเป็นพ่อ (ตามความคาดหวังของสังคม) แบบเป็นธรรมชาติเท่าไร แต่คงจะพยายามกอดลูกบ่อย ๆ และไม่ตีลูกเลย อะไรนะเผลอตีหมาแดงประจำเหรอ

 

  1. ออริมีความต้องการทางอาหารเป็นพิเศษไหม? เป็นคนไม่กินเนื้อสัตว์รึเปล่า? เป็นมังสวิรัติ? แพ้อะไรไหม?

ที่จริงเมื่อก่อนชอบขนมหวาน ฟาสต์ฟู้ดและน้ำอัดลม /รีรัน พอเป็น eating disorders ก็แทบไม่แตะอะไรพวกนั้นเลยกระทั่งพยายามหายจาก ED นี่แหละ ช่วงที่ไปมีตติ้งก่อนหลุดเข้าเกมก็นับว่าอาการดีแล้ว BMI ปกติ อาการคง ๆ  ไม่ถึงกับ relapse จนมีผลกระทบกับชีวิตประจำวันมากจนเกินไป แต่จะไม่กินอะไรที่ตัวเองกะปริมาณแคลอรีไม่ได้ เลยไม่กินอาหารที่คนอื่นทำ (แต่ที่เป็นฟู้ดเชนอย่างแม็คโดนัลด์หรือสตาร์บั๊คส์ ถ้าเป็นเมนูที่จำได้ว่าแคลอรีเท่าไรก็จะกิน)

นอกนั้นคือไม่ค่อยชอบอาหารที่มาปนกันหรืออยู่ผิดที่ผิดทางน่ะ เฟรนช์ฟรายก็ควรอยู่ส่วนเฟรนช์ฟรายอะไรแบบนั้น หรือไม่ชอบให้อาหารในจานปนกัน

ไม่แพ้อาหารอะไรเลย

 

  1. ชอบอาหารอะไร?

สตรอเบอร์รี่ ไดเอทโค้ก เอ้กน็อค

 

  1. ชอบอาหารอะไรน้อยที่สุด?

เบเกิล

 

  1. มีความทรงจำเฉพาะกับอาหาร/ร้านอาหาร/มื้ออาหารอะไรไหม?
  • ไปมีตติ้งเจอคนในเน็ต ทุกอย่างดูราบรื่นจนเฟรนช์ฟรายหกเลยไม่ค่อยสงบ
  • มื้อแรกที่กินคนเดียวในห้องเสบียงในเกม เหมือนจะรู้สึกสงบดี
  • มีช่วงที่กำลังพยายามจะหายจาก ED แล้วออกไปกินข้าวกับครอบครัว ตอนนั้นมีญาติไปด้วย ก่อนไปดูเมนูของทางร้านไปเรียบร้อยแล้ว คิดเมนูล่วงหน้าไปสามอย่าง ดีที่ทางร้านมีเสิร์ฟให้ตามแผน A
  • มื้อที่ยอมกินเบเกิลครั้งแรกหลังจากไม่ได้กินมานาน
  • มื้อที่หลุดร้องไห้แล้วไม่ยอมกินที่สถานบำบัด หลังจากยอมอดทนกินตามที่เขากำหนดมานานมาก สะสมคะแนนที่สถานบำบัดจนจะได้ออกไปเจอพี่สาวเป็นรางวัลอยู่แล้ว
  • กินพิซซ่าครั้งแรกหลังจากไม่ได้กินมานาน
  • พวกวันที่ตบะแตกกินเกินสามพันแคลอรี
  • ในทุก ๆ วันจะจำทุกอย่างที่กินเมื่อวานได้

 

  1. ทำอาหารเก่งไหม? สนุกกับการทำอาหารไหม? คนอื่นคิดว่าการทำอาหารของออริเป็นยังไง?

เก่งนะ และสนุกกับการทำอาหารในระดับหนึ่ง

คนอื่นที่เคยทานก็รู้ว่าวิลเฟรดฝีมือดี เมื่อก่อนคนอื่นจะไม่ได้สังเกตว่าวิลเฟรดทำยุ่ง ๆ ในครัว เสิร์ฟโน่นนี่แต่ไม่ค่อยกินให้เห็น

 

  1. ออริสะสมอะไรไหม? แล้วทำอะไรกับของสะสมนั้นบ้าง? เก็บของสะสมไว้ที่ไหน?

พวกรูปภาพ ผลงานศิลปะต่าง ๆ

 

  1. ชอบถ่ายรูปไหม? ชอบถ่ายรูปอะไร? เซลฟี่ไหม? แล้วทำอะไรกับรูปที่ถ่ายมา?

ชอบในระดับหนึ่ง เคยถ่ายอะไรเป็นการอ้างอิงในการวาดรูปเหมือนกัน

ที่จริงเคยมีช่วงที่ถ่ายรูปตัวเองทุกวันตอนใส่แต่ชั้นใน เอามาเทียบดูว่าผอมลงไหม

 

  1. ออริชอบของประเภทอะไรบ้าง : หนังสือ เพลง รายการทีวี ภาพยนตร์ วีดีโอเกม หรืออื่นๆ

งงคำถามนี้นิดหน่อยเลยไปดูภาษาอังกฤษ What’s their favourite genre ของสิ่งเหล่านี้สินะ

ชอบหนังสือแนวนิทาน เทพนิยาย แฟนตาซี

ชอบเพลงคลาสสิค

ไม่ชอบดูรายการทีวี

ไม่ค่อยเล่นวีดีโอเกม ที่ใช้อินเตอร์เน็ตเน้นเล่นเว็บบอร์ดน่ะ

 

  1. ประเภทของที่ออริที่ชอบน้อยที่สุด

Least favourite genres ก็พวกรายการทีวีประเภทแข่งกินกับเรื่องเล่าแนว horror

 

  1. ชอบดนตรีไหม? ปกติฟังเพลงรึเปล่า? ออริจะทำอะไรเมื่อได้ยินเพลงที่ชอบ?

ชอบ ปกติฟังทุกวัน ชอบเพลงของโชแปง ชอบเสียงเปียโน ชอบใส่หูฟังขณะอยู่ข้างนอก ได้ยินเพลงที่ชอบก็แค่ฟังเงียบ ๆ

 

  1. เป็นคนอารมณ์ยังไง? อดทนอดกลั้นได้ไหม? เวลาโกรธจะเป็นยังไง?

อารมณ์ชา ๆ  รับรู้ช้า เจาะจงความรู้สึกไม่ถูกว่ามันคืออะไร รู้ตัวอีกทีไม่ค่อยรู้สึกถึงอะไรได้เป็นพิเศษ รู้สึกเบื่อตลอดเวลา เหมือนว่าในอกว่างเปล่า แต่หลังตายแล้วรู้สึกสงบขึ้น อุ่นบ้าง แต่ก็ยังมีชา ๆ บ้าง

เวลาโกรธแบบระเบิดอารมณ์จะทำลายข้าวของ

 

  1. คำพูดหยาบคายต่อว่าคนอื่นที่ชอบใช้คือ? ทำตัวหยาบคายกับคนอื่นเพื่ออะไร? หรือชอบบ่นลับหลังคนอื่น?

วิลไม่ชอบใช้คำหยาบต่อว่าคนอื่นแฮะ มากสุดอาจจะใช้ freaking ที่ซอฟต์กว่าคำว่า fucking แทรกในประโยค ไม่ค่อยมีแรงผลักในการทำหยาบคายกับคนอื่นเว้นแต่จะระบายความโกรธส่วนตัว ถ้าใช้ส่วนใหญ่ใช้ตอนอยู่คนเดียวและด่าตัวเอง วิลพูดคนเดียวบ่อย แต่ไม่ค่อยบ่นอะไรกับใคร

 

  1. ความจำดีไหม? เป็นพวกจำได้แปปเดียวหรือจะได้นาน? เป็นคนจำชื่อคนหรือหน้าคนเก่งไหม?

ตั้งแต่ป่วย ED แล้วความทรงจำไม่ดีเท่าไรหรอก

จำชื่อคนเก่ง ในเน็ตจะชอบสังเกตชื่อ username คนอื่น แต่จำหน้าคนไม่เก่ง

 

  1. นอนท่าไหน? กรนไหม? ชอบนอนบนอะไร? ที่นอนนุ่มๆ หรือแข็งๆ?

นอนหงาย ไม่กรน ชอบที่นอนแข็ง

 

  1. รู้สึกว่าอะไรตลก? มีอารมณ์ขันไหม? เป็นคนตลกรึเปล่า?

รู้สึกว่าฮานส์ตลก

วิลเฟรดเป็นคนมีอารมณ์ขันแบบถ้าคนเล่นมุกก็คงขำแหละ แต่ไม่ใช่คนตลก

ในเกมรู้สึกเหมือนชาร์ล็อตกับวาเลนเล่นมุกอะไรสักอย่างกับตัวเอง แต่ไม่แน่ใจ (….)

 

  1. ถ้ามีความสุขจะแสดงออกยังไง? ร้องเพลง? เต้น? ฮัมเพลง? หรือเก็บซ่อนอารมณ์?

คงจะยิ้มอ่อนโยนออกมา ไม่ร้องเพลงหรือเต้น ไม่อยากร้องเพราะ range เสียงเคยพังเพราะ ED เลยหมดความมั่นใจไป ไม่อยากเต้นเพราะรู้สึกไม่ค่อยโอเคกับร่างกายตัวเองเท่าไร ไม่ได้ตั้งใจจะเก็บซ่อนอารมณ์ แต่เหมือนลืมวิธีแสดงออกแบบเป็นธรรมชาติไปแล้ว

 

  1. อะไรทำให้ออริเศร้า? ปกติจะร้องไห้ไหม? ถ้าร้องจะร้องออกมาเลยหรือแอบไปร้องคนเดียว? เวลาเศร้าจะแสดงท่าทางยังไง?

หลัก ๆ เป็นความรู้สึกผิดพลาดที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ และการสูญเสียหรือการหาคำตอบของความรู้สึกสูญเสียนั้นไม่เจอ ปัจจุบันในฐานะคนที่ตายไปแล้ว คงเศร้าที่ไม่สามารถสานสัมพันธ์กับคนสำคัญในฐานะคนที่มีชีวิตอยู่ได้น่ะ

ปกติไม่ร้องไห้ ชอบแอบไปร้องไห้คนเดียวมากกว่า ถ้าคนอื่นจะเห็นคือทนไม่ไหวจริง ๆ

มาถึงตอนนี้เวลาเศร้าจะร้องไห้ไม่ออกแล้ว แต่อาจจะมีแววตาเศร้าหรือน้ำตาเอ่อคลอถ้าเต็มตื้นจริง ๆ

 

  1. ออริกลัวอะไรที่สุด? สิ่งทั่วไปอะไรที่ทำให้ออริกลัว? ตอนกลัวจะเป็นยังไง?

เข้าใจว่าวิลเฟรดกลัวไอเดียของการถูกคนที่น่าจะไว้ใจได้ทำร้าย กลัวคนแปลกหน้า อย่างที่เคยพูดครั้งหนึ่งในโรลมีตติ้งว่าสมัยเด็กกลัวซานต้าคลอส สงสัยว่าคุณซานต้ามองอยู่ตลอดทั้งปีเลยเหรอ แล้วทำไมเข้ามาในบ้าน ทำไมไม่ได้ยินเสียงคุณซานต้าตอนเอาของขวัญมาให้ และเดาออกว่าชอบอะไร

ในเกมเหมือนจะรู้สึกกลัวแค่สามครั้งมั้ง ครึ่งแรกตอนตื่นขึ้นมาแล้วได้รับการ์ดหมอ ครั้งที่สองตอนเอเดนคว้าข้อมือ ครั้งที่สามตอนออซจะฆ่า

ตอนกลัวก็พยายามอยู่นิ่ง ๆ เฉย ๆ  จะโดนทำอะไรก็พยายามอยู่เฉย ๆ ให้มันจบ ๆ  เจ้าตัวคิดแบบนั้น

อ้อ แมลงสาบก็กลัว

 

  1. ออริจะทำอะไรถ้ารู้ว่าคนอื่นกลัวอะไร? จะแกล้งเขาไหม? หรือว่าจะปกป้องจนมากเกินไป?

ไม่แกล้ง แต่ก็จะไม่ปกป้องเพราะไม่เคยคิดว่าตัวเองสามารถปกป้องได้ อย่างมากคือพยายามปลอบโยน

 

  1. ออกกำลังกายไหม? ออกกำกายเป็นเป็นปกติเลยรึเปล่า? หรือออกกำลังเมื่อถูกบังคับ? แสดงท่าทางยังไงตอนก่อนและหลังออกกำลังกาย?

ที่จริงสมัยเด็กไม่ค่อยออกกำลังกาย พอป่วย ED ก็ออกกำลังกายมากเกินไป ปีที่ไปติดอยู่ในเกมนั่นเป็นช่วงเว้นออกกำลังกายเพราะเกรงจะไป trigger แล้ว relapse ไปออกกำลังกายมากเกินไป ท่าตอนก่อนออกกำลังกายก็หน้าตายปกติแหละ หลังออกกำลังกายก็จะไอถี่หน่อย

 

  1. ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไหม? เวลาเมาเป็นยังไง? ตอนเมาค้างเป็นยังไง? ทำยังไงถ้าคนอื่นเมาหรือเมาค้าง? จะช่วยหรือแกล้ง?

ไม่เคยดื่ม ไม่เคยเมา ถ้าคนอื่นเมาจะไม่ยุ่ง ถ้าคนอื่นเมาค้างอาจจะไปหาเครื่องดื่มที่ช่วยอาการเมาค้างมาให้

 

  1. แต่งตัวยังไง? ซื้อเสื้อผ้าจากร้านแบบไหน? แต่งตัวแบบที่ตัวเองชอบรึเปล่า? ใส่อะไรนอน? แต่งหน้าไหม? ทำผมทรงอะไร?

สีดำเรียบ ๆ  อะไรก็ได้ที่ทำให้ดูผอมที่สุด ไม่ได้แต่งแบบที่ชอบแล้วล่ะ ที่จริงชอบสีส้มน่ะ

 

  1. ใส่ชุดชั้นในแบบไหน? บอกเซอร์หรือบรีฟ ชุดชั้นในแบบวัยรุ่นหรือแบบคุณยายใส่?

มีทั้งบ็อกเซอร์และบรีฟ มีแต่สีขาวกับเทา

 

  1. รูปร่างเป็นยังไง? สูงเท่าไหร่? ชอบรูปร่างของตัวเองไหม?

รูปร่างสูง BMI ต่ำสุดอยู่ที่ 13.9 สูงสุดก็ 22.1 ตอนเข้าเกมนี่แล

 

  1. เคยทำอะไรที่รู้สึกผิดไหม? แล้วทำยังไงถึงจะหายจากความรู้สึกผิดนั้น?

ที่จริงอยู่กับความรู้สึกผิดอยู่ตลอด ตอนกินอะไรจะมีความรู้สึกผิดในหัว รู้สึกผิดทั้งเรื่องที่ตัดสินใจจะตาย ทั้งที่ไม่ได้แสดงความคิดตัวเองที่มีต่อคนที่สำคัญตอนยังมีชีวิตอยู่ ทั้งรีเควสต์ที่เคยไปขอกับคนอื่นในเกม ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ล้มเลิกที่จะทำให้ตัวเองหายจากความรู้สึกนั้นแล้ว ในฐานะวิญญาณก็ทำอะไรเท่าที่ตัวเองทำได้นั่นล่ะ แต่ถ้าจะทำอะไรก็เพราะมีห่วงมากกว่า ไม่ได้พยายามจะทำให้ตัวเองหายรู้สึกผิด

 

  1. ออริทำอะไรได้ดีบ้าง? มีงานอดิเรกอะไร? ร้องเพลงได้ไหม?

วิลเฟรดเก่งวาดรูปมาก ได้เงินจากคอมมิชชั่นพอสมควร ร้องเพลงได้ เมื่อก่อนเคยร้องได้ดีมากแต่ตอนเสียงเริ่มพังไปเพราะ ED  หลังจากนั้นก็ไม่อยากร้องอีกเท่าไร

 

  1. ออริชอบอ่านหนังสือแบบไหน? อ่านเร็วหรืออ่านช้า? ชอบบทกวี นวนิยาย หรือสารคดี?

ชอบอ่านอะไรไปทั่วล่ะ ที่ชอบเป็นพิเศษคงประวัติศาสตร์ศิลปะ

อ่านช้า

 

  1. อะไรที่จะทำให้ออริรู้สึกนับถือในคนอื่น? ความสามารถอะไรที่ออริอยากจะมี?

ความช่างสังเกตล่ะมั้งที่ทำให้รู้สึกนับถือ สิ่งที่อยากจะมีคือความกล้าที่จะมีชีวิตอยู่

 

  1. ออริชอบจดหมายไหม? หรืออาจจะเป็นอีเมลล์ หรือ ข้อความ?

สมัยก่อนชอบเขียนจดหมายแลกกันกับเคทลิน

ชอบ PM ในเว็บบอร์ด ไม่ได้ชอบอีเมล์เป็นพิเศษ

พวกข้อความแบบ sms ไม่เคยใช้

 

  1. ออริชอบอะไรระหว่างเครื่องดื่มชูกำลัง กาแฟ หรืออาหารหวานๆ หรือว่าออริมีพลังและตื่นตัวตลอดเวลา

กาแฟดำ และที่จริงชอบอาหารหวาน ๆ ด้วย แค่ตอนนี้จะมีความรู้สึกขยะแขยงปนกันไป

 

  1. รสนิยมทางเพศของออริเป็นอย่างไร? อะไรที่มีเสน่ห์สำหรับออริรูปร่างหรือจิตใจ? อะไรที่ออริชอบ หรือ ต้องการหากจะผูกพันกับใครซักคน?

วางไว้คร่าว ๆ ว่าอาจจะเป็น romantic asexual แต่ก็ไม่ได้ fixed มาก ที่มีเสน่ห์จะเป็นจิตใจซึ่งน่าจะเป็นความใจกว้างกับจินตนาการ ไม่ได้มีรูปร่างที่ชอบในเชิงดึงดูดทางเพศเป็นพิเศษ ถ้าผูกพันกับใครสักคน สิ่งที่ชอบน่าจะเป็นการจับมือนะ คงต้องการจะอยู่ด้วยกันและอยู่เคียงข้าง

 

  1. อะไรคือเป้าหมายในชีวิตของออริ? ออริจะสละทุกอย่างเพื่อเป้าหมายหรือไม่? อะไรคือความทะเยอทะยานของออริ?

อยากจะพบกับความสงบและอยากจะรู้สึกเหมือนสมบูรณ์แบบสักครั้ง และจะสละทุกอย่างเพื่อสิ่งนั้น แต่ไม่เคยคิดว่าตัวเองหาวิธีที่ถูกได้เลย ก็เลยอยู่กับมันไม่ได้น่ะ

 

  1. ออรินับถือศาสนาหรือไม่? ออริคิดอย่างไรกับศาสนา? ออริคิดอย่าไงรกับผู้ที่นับถือศาสนา? ออริคิดอย่างไกับผู้ที่ไม่นับถือศาสนา

ไม่ และไม่เชื่อในโลกหลังความตาย มาตอนนี้เชื่อแล้วก็ได้ (….) แต่ก็ไม่มีศาสนา

ไม่สนใจคนอื่นที่คนที่ไม่นับถือศาสนาเพราะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตัวเอง

 

  1. ออริชอบฤดูอะไรมากที่สุด? สภาพอากาศแบบไหนที่ออริชอบ? ออริรู้สึกดีกับอากาศหนาวหรือร้อน? สภาพอากาศแบบไหนที่ออริเกลียดที่สุด

ฤดูหนาวกับฤดูใบไม้ผลิ ที่จริงอาจจะรู้สึกดีกับอากาศร้อนมากกว่า แต่เกลียดเพราะต้องใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นลงแล้วรู้สึกกระอักกระอ่วน

 

  1. คนอื่นมองออริของคุณเป็นอย่างไร? เหมือนกับที่ออริมองตัวเองไหม?

ไม่แน่ใจ เราเองไม่กล้าจะบรรยายว่าคนอื่นมองยังไง คิดว่าแต่ละคนคงมองไม่เหมือนกัน 55 แต่คิดว่าคงไม่เหมือนหรอก วิลเฟรดมองว่าตัวเองรกโลก

 

  1. ออริสามารถสร้างความประทับใจแรกได้หรือไม่? ออริตอบสนองต่อความประทับใจแรกจากคนอื่นได้เร็วแค่ไหน? ออริจะแนะนำตัวเองอย่างไร?

แล้วแต่อารมณ์ของวิล โดยปกติไม่เร็วเท่าไรมั้ง ที่จริงวิลเฟรดคิดว่าตัวเองค่อนข้างจืดจาง ที่อาจจะพอสร้างความประทับใจแรกกับคนอื่นในเกมได้คงเพราะมีช่วงเวลาที่ตัดสินใจพุ่งชน ก็คงขึ้นอยู่กับว่าอีกฝ่ายคาดหวังอะไรด้วย วิลเฟรดค่อนข้างจะห้วน ๆ น่ะ อาจจะสร้างความประทับใจแรกได้เพราะเผลอไม่สุภาพด้วย ปกติก็แนะนำด้วยชื่อวิลเฟรด แล้วก็บอกว่าฉันคือแซนด์ดอลลาร์ในเน็ต อะไรแบบนั้น

 

  1. ออริสามารถแสดงออกอย่างเป็นทางการได้หรือไม่? ออริคิดยังไงกับการผูกเนคไทด์สีดำ? ออริชอบงานปาร์ตี้แฟนซี และการพูดคุยจิ๊จ๊ะ หรือว่าออริเกลียดงานเลี้ยงพวกนั้น

ไม่ค่อยได้นะ ไม่ติดพูดผม/ครับ และห่างหายการปฏิสัมพันธ์กับคนทั่วไปจนไม่ค่อยพิจารณาเรื่องทำตัวเป็นทางการแล้ว ทำไม่ค่อยเป็นด้วย นิสัยเสียตรงไม่พยายามแล้วด้วย

คิดว่าเนคไทสีดำไม่ได้มีประโยชน์เป็นพิเศษแต่ก็โอเค ใส่ก็ทำให้อุ่นขึ้นได้แต่สู้ผ้าพันคอไม่ได้ /ไม่เกี่ยว

วิลเฟรดโอเคกับการรวมกลุ่มของคนที่มีการสนใจร่วมกัน (แบบมีตติ้งที่ไปก็นับนะ คือมุ่งจะทำอย่างเดียวกันอะไรงี้) แต่ทนการออกงานที่ไม่เกี่ยวกับความสนใจร่วมกันไม่ค่อยได้ อึดอัดมาก รวม ๆ ค่อนข้างกลัวงานแนวนั้นด้วย

 

  1. ออริชอบงานปาร์ตี้ไหม? ชอบงานแบบไหน? ออริป็นผู้จัดปาร์ตี้หรือเป็นผู้ร่วมงาน? พออริจะแสดงท่าทีอย่างไรหากว่าเขาไม่ได้อยากไปงานปาร์ตี้ แต่เพื่อนลากไป

ไม่ชอบงานปาร์ตี้เลย แต่ชอบเพลงคริสต์มาสและบรรยากาศ ก็เลยค่อนข้างโอเคกับปาร์ตี้คริสต์มาส เพียงแต่อยากมองมันจากจุดที่ห่างที่สุดจากปาร์ตี้เท่าที่เป็นไปได้

บทไม่อยากไปจะแสดงตนชัดเจนมากว่าจะไม่ไป และจะไม่ไปแน่ ๆ

 

  1. อะไรคือสิ่งที่มีค่ามากที่สุดของออริ? เป็นสิ่งที่มีค่ากับจิตใจของออริไหม? มีอะไรที่ออริจะพกมันไปทุกๆที่หรือไม่?

แต่ละอย่างก็ไม่ค่อยรู้ตัวเท่าไรว่าอะไรมีค่ากับตัวเองบ้าง แต่อันที่จริงครอบครัวและใครก็ตามที่นับเป็นเพื่อนมีค่าสำหรับวิลเฟรด (เคทลิน เอเดน ส่วนเหล่าหมาบ้านที่จริงไม่ทันได้ตระหนักว่าตัวเองอาจนับเป็นเพื่อนพวกเขาก่อนตาย แต่หมาบ้านทุกคนมีค่าสำหรับวิลเฟรด)

วาเลนเป็นบุคคลที่มีค่ามากสำหรับวิลเฟรดแต่ไม่เคยหาคำตอบได้เลยว่าทำไม สิ่งที่มีค่ากับจิตใจของวิลเฟรดก็มีหมวกของฮานส์ที่ฮานส์เอามาเยี่ยมศพก็จะพกมันไปในฐานะวิญญาณ แล้วอีกสิ่งที่มีค่าก็ต้มหูที่เคลกับเอมิลี่เอาไป (คือมันมีค่าขึ้นมาเมื่อมีคนคิดจะเอาไปด้วย) /อ้าว มีแต่เรื่องหลังตาย

สิ่งที่ปกติพกไปทุกที่ตอนมีชีวิตอยู่น่าจะมีต้มหูที่ใส่ คัตเตอร์ ไอพอดกับหูฟังสำหรับฟังเพลงล่ะมั้ง

 

  1. หากออริของคุณจะต้องนำกระเป๋าติดตัวไปด้วยหนึ่งใบ ออริจะใส่อะไรในกระเป๋าบ้าง? และทำไมออริถึงตัดสินใจจะนำของสิ่งนั้นไปด้วย?

กระเป๋าตังค์พร้อมเงินสดจำนวนมาก (….) คัตเตอร์ ไอพอตกับหูฟัง

Posted in Gallery, Prompt

[RP] Shirley Southsea

Entry นี้เป็นส่วนหนึ่งของ

timthumb

☾ Page of Shirley Southsea

ชื่อ-นามสกุล: Shirley Southsea (เชอร์ลีย์ เซาธ์ซี)

ชื่อเล่น: Shirl (เชิร์ล)

ตำแหน่ง: ลูกเรือ

เรือที่ต้องการสังกัด / กัปตันเรือที่ต้องการสังกัด: The Doomed Dawn / Derya Jamal

อายุ: 26 27 ปี

เพศ: ชาย

น้ำหนัก / ส่วนสูง: 75 kg / 187 cm

เมืองเกิด: เกิดบนเรือโดยสารจากโรซาริน่าไปซิมาฟ

เชื้อชาติ: ไม่ทราบแน่ชัด คาดว่าอย่างน้อยก็มีเชื้อสายชาวลาเอลอยู่

ลักษณะภายนอก: ผมสีบลอนด์ขาว ดวงตาสีเทา ชอบถักเปียเล็ก ๆ สองข้างที่ปอยผมด้านหน้าและผูกผ้าโพกหัวประดับลูกหิน ท่าทางกระฉับกระเฉง ส่วนใหญ่จะสวมเสื้อผ้าที่ไม่มีแขนเสื้อ ที่ข้อมือมักจะสวมกำไลลูกหินสีต่าง ๆ ให้เข้ากับชุดที่สวมใส่วันนั้น มักจะใส่ต้มหูลูกหิน แต่งกายสีสันสดใส เน้นสีแดงสด หลายชุดก็ดูเก่า ๆ โทรม ๆ บ้างคล้ายไม่มีเวลาดูแล แต่ก็มักจะใส่เสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าชั้นดี รูปร่างสูง ดูปราดเปรียว ผิวสีขาว ถ้าโดนแดดนานหรืออยู่ในอากาศเย็นมากแล้วผิวหน้าจะออกแดงอย่างชัดเจน (เวลาดื่มเหล้าก็หน้าแดงง่าย) เหน็บกริชกับขวานใหญ่ติดตัวเป็นประจำ มักจะสวมปลอกคอสีน้ำตาลดำ ยกเว้นเวลาออกปล้น

^20863BD4317C626A72E6F99EE09FE8529C41E029B683FD319D^pimgpsh_fullsize_distr

[ภาพอภินันทนาการจาก https://seykurohashi.wordpress.com/ ]

ลักษณะนิสัย:

  • ชอบยิ้มกวนระคนอวดดีอยู่เป็นนิจ ขี้เล่น
  • อยู่ในวัยที่โอหังและอาจประเมินตัวเองสูงกว่าความเป็นจริง อนึ่งคือค่อนข้างหลงตัวเอง และบางครั้งก็มั่นใจในตัวเองจนไม่ฟังใครและยังทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโต
  • นิ่งลงกว่าปกติเมื่ออยู่กับหนังสือ
  • อดไม่ได้ที่จะปากดีไม่ดูเวลาเรื่อย ๆ
  • คล้ายจะชอบเอาใจคนอื่น แต่ในหลายกรณีอาจเพียงอยากกวนใจคนอื่นเขาแค่นั้นก็เป็นได้ แม้แต่ตัวเองก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก
  • เมื่อถือว่าได้สังกัดอยู่ที่ใดแล้วก็มักจะทุ่มเทอุทิศตนให้กับที่นั่นเต็มที่ ฉะนั้นในตอนนี้จึงตั้งใจจะทำหน้าที่ของตัวเองในเรือดูมดอว์นอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ถือว่าการอุทิศตนกับการผูกมัดเป็นคนละเรื่องกัน
  • ปฏิบัติกับผู้คนไม่เท่ากัน จะสุภาพ นัวเนีย ออเซาะหรืออวดดีกับใครก็แล้วแต่สัญชาตญาณตัวเองจะชี้นำ
  • ถ้าเดือดดาลขึ้นมาจะติดนิสัยใช้กำลัง
  • สนุกกับการฆ่าคนอย่างช้า ๆ แต่ก็จะไม่ทำให้ความชอบส่วนตัวนี้ถ่วงการขโมยสมบัติหรือกิจอื่นที่จำเป็นต้องทำ ณ เวลานั้น ส่วนกรณีที่สนุกกับการฆ่าเร็ว ๆ มักจะตอนได้พรากทารกจากอกแม่และฆ่าต่อหน้า
  • รักสมบัติ แต่เมื่อมีเหตุเสียทรัพย์ไปก็ไม่เก็บมาเจ็บแค้น และไม่ก็ไม่เสียดายของที่พังไปเกินกว่าจะซ่อมได้แล้ว
  • ตระหนักรู้ความรู้สึกของตนที่มีต่ออะไรช้าเอามาก ๆ  อาจจะเว้นแต่ความรู้สึกโกรธ

ประวัติ:

ปี 91 – 103:

  • เกิดบนเรือโดยสารจากโรซาริน่าไปซิมาฟ คาดว่าเป็นลูกของชนชั้นสูงที่แอบมาคลอดบนเรือแล้วทิ้งลูกไว้เพื่อปิดบังเรื่องอื้อฉาว กัปตันผู้เป็นชาวมัวร์ของเรือโดยสารนั้นเป็นคนไปพบเด็กทารกและตัดสินใจเลี้ยงไว้เป็นลูกบุญธรรม
  • เชอร์ลีย์มีชีวิตช่วงแรกอยู่ในเรือ และเคยกลัวที่จะขึ้นบกเพราะเคยโดนลูกเรือคนหนึ่งแกล้งกรอกหูว่า “คนบนบก” รังเกียจคนที่ไม่ได้เกิดบนบก พออายุ 5 ขวบถึงได้ลองยอมขึ้นบกเป็นครั้งแรก
  • มีนิสัยชอบขโมยอาหารในเรือมาตั้งแต่เล็ก ๆ  โดนกัปตันของเรือโดยสารนั้นตีบ่อย ๆ แต่ก็ไม่เข็ดเสียที
  • ชอบเก็บสะสมของที่พวกคนโดยสารทิ้งไว้ แต่ไม่ค่อยเจอของมีราคาสูง สมัยนั้นชอบสะสมหนังสือและนาฬิกาพกเป็นพิเศษ (แพทย์ประจำเรือเป็นคนสอนอ่านหนังสือ) ถ้าเจอซิการ์ก็จะเอาไปฝากกัปตัน มีอยู่ครั้งหนึ่งพบกำไลอัญมณี พอเอาไปฝากกัปตันแล้วกัปตันดูดีใจมาก เลยเริ่มนิสัยลักขโมยของมีค่า ไม่เคยโดนจับได้

ปี 104 – 107:

  • มีลูกเรือคนหนึ่งถอนตัวจากเรือโดยสารนั้น เขาหลอกพาเชอร์ลีย์ลงเรือไปเที่ยวด้วยกันที่รอนโดรี่ ก่อนจะนำไปขายให้กับซ่อง เชอร์ลีย์พบยูลและได้มีเพื่อนวัยรุ่นราวคราวเดียวกันเป็นครั้งแรก อยู่ได้ไม่กี่เดือนเชอร์ลีย์ก็หนีออกมาครั้งหนึ่ง แต่ก็โดนจับกลับไปในเวลาอันสั้น ที่ซ่องเอาฝิ่นกับกัญชาให้เชอร์ลีย์เสพจนติด เขาไม่กล้าหนีออกมาอยู่นานระหว่างที่เป็นทาสฝิ่นกับกัญชาอยู่ที่นั่น ที่รอนโดรี่ไม่มีโสเภณีชายที่มีลักษณะของชาวลาเอลอยู่เยอะนัก หลังจากเรียนรู้งานนี้อยู่พักใหญ่ก็ได้ราคาสูงกว่าเดิม กลับกลายเป็นได้รับการทะนุถนอมจากเจ้าของซ่องอยู่พอสมควร

ปี 108114:

  • เมื่อยูลวางเพลิงซ่อง ก็หนีออกมาด้วยกัน
  • เชอร์ลีย์จากยูลโดยไม่บอกลา แล้วลักลอบขึ้นเรือพาณิชย์ที่กำลังเดินทางไปอัคซาเร ได้พบกับกัปตันเรือนามว่าคามิลเลียสเข้า คามิลเลียสตัดสินใจรับเชอร์ลีย์เข้ามาเป็นลูกเรือ และคอยคุมดูแลเชอร์ลีย์จนเลิกติดฝิ่นและกัญชา ทั้งคู่เป็นคู่รักกันอย่างลับ ๆ
  • ได้ฝึกการเดินเรือและศิลปะการต่อสู้จากท่านคามิลเลียสตลอดเวลาที่อยู่บนเรือพาณิชย์ กับคนรุ่นราวคราวเดียวกันแล้วเชอร์ลีย์ไม่เป็นรองใครในเรื่องของความเร็วในฝีเท้าและในฝีดาบ
  • เรือพาณิชย์นั้นล่มไปเมื่อเจอกับพายุใหญ่ระหว่างเดินทางไปซิมาฟ คามิลเลียสสาบสูญ

ปี 115 – 117:

  • เชอร์ลีย์ตัดสินใจลองท่องทะเลทรายดูบ้าง จึงไปเข้าร่วมกับพวกหมู่โจรทะเลทราย คอยตามขโมยของจากพวกพ่อค้าที่ขนส่งสินค้าข้ามทะเลทรายเข้า-ออกซิมาฟ นอกจากนั้นเชอร์ลีย์ก็ขายตัว ลักขโมย และขายกำไลลูกหินเป็นงานเสริม
  • หลักจากเบื่อการเดินทางในทะเลทรายก็เป็นผู้ช่วยคนขายเนื้อที่ซิมาฟ  และเริ่มคิดอยากกลับสู่ทะเลอีกครั้ง ว่าจะหาช่องทางเข้าร่วมกับโจรสลัดเรือใหญ่

ปี 118:

  • พบอิกกี้ที่ร้านหนังสือที่ซิมาฟ พบว่าคนคนนี้น่าค้นหาติดตาม แต่ไม่ควรไปหือด้วยอย่างประหลาด
  • ขึ้นเรือดูมดอว์น ลึก ๆ แล้วนับเป็นหนี้อิกกี้อยู่มากที่ได้กลับมาสู่ทะเลในแบบที่ตัวเองต้องการ

[สามารถโคประวัติเพิ่มเติมได้]

อาวุธ: เรียงลำดับตามความถนัด –> มือเปล่า=ขวาน>ดาบสั้น>กริช

ประสบการณ์การเดินเรือ (ปี): เดินเรืออย่างจริงจังเป็นเวลา 6 ปีเมื่อสมัยเป็นลูกเรือให้เรือพาณิชย์ของคามิลเลียส (เวลาที่อยู่บนเรือ 12 ปีเมื่อสมัยเด็กก็ได้รับความรู้เรื่องวิธีการเดินเรือมาตลอด แต่ไม่มีประสบการณ์ในเชิงปฏิบัติมากนัก)

สิ่งที่ชอบ: การอ่านหนังสือ, เซ็กซ์กับคนในแบบที่ชอบ, เซ็กซ์ที่ได้เงินทองตอบแทน, ซิการ์, ลูกหิน, นิ้วมือ นิ้วเท้าของคนหรือหัวของทารกตอนถูกตัดออกใหม่ ๆ, ผู้ชายท่าทางเนี้ยบ ๆ และดูเรียบร้อย, กลิ่นทะเล, เสียงคลื่นที่ได้ยินจากบนเรือ/ในเรือ, ทำสร้อยข้อมือ, การทำอาหาร, เหล้ารัม, การเล่นซ่อนหาบนเรือ, เสียงไวโอลิน, แสงจันทร์

สิ่งที่ไม่ชอบ: เสียงกรี๊ดอย่างสนุกสนานของเด็ก

สิ่งที่เกลียด: ท้องฟ้าสีแดงยามเช้า (=พายุอาจจะเข้า), การโดนคนที่ตนยอมรับดูถูก

อุดมการณ์/ความต้องการ: ความผิดพลาดพื้นฐานในการใช้ชีวิตคือการคิดว่าความสุขคือเป้าหมาย, คนบนโลกนี้ไม่มีดีหรือเลว มีเพียงชาวบกหรือชาวทะเล, ต้องการชีวิตที่มีการเดินทางและเสียงคลื่นจากบนเรือ

Twitter: https://twitter.com/Shirley_DDawn

Twitter ผปค.: https://twitter.com/Daiong

ฝากตัวด้วยนะคะ (u _ u,,

Posted in Gallery, Prompt

[WIW] Vladimir Zaytseva

Entry นี้เป็นส่วนหนึ่งของ

avatar.org

World is War: The Republic of Russia-China

vladimir_zaytseva_wiw

ชื่อ-สกุล: วลาดิเมียร์ ซายเซทว่า (Vladimir Zaytseva)

วันเกิด: 01/09/2074

อายุ: 26

ตำแหน่ง: ร้อยโท

เพศ: ชาย

น้ำหนัก/ส่วนสูง: 183cm/80kg

สีตาสีผม: สีเทา/สีฟางซีด

ลักษณะภายนอก: ผมสั้นสีฟางซีดตัดสั้นนั้นปัดเรียบแปล้ไปด้านหลังเพื่อเปิดหน้าผากทั้งหมด ดวงตาคมสีเทา คิ้วบางจนแทบไม่เห็น ปลายจมูกออกแหลมเล็กน้อย หน้ายาว เป็นคนแขนขายาว

เชื้อชาติ-สัญชาติ: รัสเซีย-รัสเซีย

เมืองเกิด: Saint Petersburg, Russia

ลักษณะนิสัย: เป็นคนที่มีบุคลิกแข็ง ๆ อยู่บ้าง แต่ก็ค่อนข้างสุภาพกับทุกคน ให้ความเคารพกับผู้ที่มีตำแหน่งสูงกว่ามาก พยายามทำตัวให้น่าเกรงขามกับคนที่ตำแหน่งต่ำกว่า แต่ก็รับฟังความคิดเห็นของคนทุกตำแหน่ง แสดงความเชื่อในสหพันธ์ รัสเซีย-จีนอย่างไม่ปิดบัง เชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้จะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงอันดี

ประวัติโดยสังเขป: คุณปู่เสียชีวิตไประหว่างการประกอบอาชีพทหาร วลาดิเมียร์จำคุณปู่ไม่ได้แล้วเพราะเคยเจอเมื่อสมัยยังเล็กมาก ๆ  แต่พ่อกับแม่มักจะพูดบ่อย ๆ ว่าคุณปู่ตายไปอย่างมีเกียรติ วลาดิเมียร์อยากเป็นทหารมาตั้งแต่เล็ก แล้วเมื่อวลาดิเมียร์เติบโตขึ้นก็ไปสอบเข้าโรงเรียนนายร้อย สุดท้ายก็เข้ารับราชการได้ และได้ตำแหน่งร้อยโทในที่สุด การเป็นทหารที่แท้จริงไม่ได้เป็นอย่างที่เขาเคยนึกภาพไว้นัก แต่เขาก็ยังรู้สึกพอใจกับชีวิตของสายอาชีพนี้

อื่นๆ: ชอบว่ายน้ำ ชอบเขียนกลอนอิสระ

Twitter: @WIW_Vladimir

Posted in Prompt, Writing

[30 Day Couple Challenge: Day Eleven – Day Fifteen] A Love Story: วันดี ๆ

Image

Source: NanJi

Entry นี้เป็นส่วนหนึ่งของ
.
.
.
Rating: PG
Author’s Note: มันไม่ใช่ 30 แต่เป็น 300 Day Challenge น่ะ… เขียนตามแต่มีอารมณ์จะเขียน เลยช้ามาก ฮา

.

.

.

.

.

.

(11)     ของตอบแทน (ไวท์เดย์)

.

ผมเคยนึกภาพว่าการตอบแทนใครสักคนเป็นเรื่องยาก ยิ่งการตอบแทนสำหรับความรักของใครสักคนด้วยแล้ว… บางทีก็ได้เพียงแต่นึกและกล่าวขอบคุณ

ขอบคุณที่รักผม ขอบคุณที่เป็นของผม  ขอบคุณที่ให้เมื่อผมขอเพิ่ม ให้ในสิ่งที่ผมขาดแคลนและในสิ่งที่ผมไม่นึกฝัน  ขอบคุณที่ใจดีกับผม… ตั้งแต่วันนั้น

ขอบคุณที่ทำตามสัญญา ที่ครั้งหนึ่งผมเคยคิดว่าอาจไม่เป็นจริง  และขอบคุณที่มีชีวิตอยู่ แล้วยิ้มให้ผม

.

.

(12)     กอดจากด้านหลัง

.

การถูกกอดจากด้านหลังนั้นแสนอบอุ่น จนรู้สึกเหมือนตัวที่เคยเย็นนั้นบางลง เล็กลง และถูกกลืนเข้าไปอยู่ในอ้อมกอด  หากมีพ่อที่กอดออสบอร์นในวัยเด็ก คงมีความรู้สึกสัมผัสบางอย่างที่คล้ายคลึง

เหมือนกับได้อยู่ใกล้ขึ้น และเกือบจะห่างออกไป  หันไปมองใบหน้าและดวงตาสีน้ำตาลไม่ถนัดสักเท่าไร ทว่าใกล้ชิดกับลำตัว วงแขนและฝ่ามือเป็นการทดแทน

ลำตัวของเขาดูเล็กลงกว่าที่เคยคิด เพราะฝ่ามือทั้งสองข้างของคริส

เป็นช่วงเวลาที่รู้สึกว่าได้อยู่ใกล้ขึ้น แม้จะขดตัว

.

.

(13)     ท่าอุ้มเจ้าสาว

.

เขาอุ้มคริสได้ เมื่ออยู่ในสระน้ำ—หรืออาจจะในความฝัน

คริสอุ้มเขาได้ เมื่อเขาต้องการ  ออสบอร์นคิดว่าเขาน่าจะหนักพอดู—ถึงจะผอม แต่เขาก็เป็นผู้ชายสูง ๆ ทั้งคน แต่คริสก็อุ้มเขาได้… ในท่าที่เขาต้องการจะอุ้ม

แล้วออสบอร์นก็รู้สึกเด็กลงทุกที ไม่เป็นไรจริง ๆ รึเปล่า

ไม่เป็นไร… ก็ได้… ก็ดีแล้ว

ไม่มีใครอุ้มเขามานานมากแล้ว เขาจำไม่ได้ว่าตั้งแต่เขาอายุเท่าไร ทว่าการได้เป็นเด็กยิ่งขึ้น พร้อมกับแก่ลงกับคนที่รักที่สุด ถือเป็นความสุข

.

.

(14)     ขี่หลัง

.

ขี่หลังเสือแล้วลงยาก

ออสบอร์นคิดว่าพวกเขาได้พบกันในสถานที่ที่ยากจะเลือกอนาคตแบบอื่น เมื่อครั้งแรกที่เขาเข้ามาในองค์กร MIS  เขาไม่เคยนึกฝันว่าจะออกไป  จากชีวิตอันเป็นสีเทานั้น อะดรีนาลีนยามที่ได้ลงมือทำสิ่งที่สนใจโดยไม่คิดจะมีชีวิตรอดนั้นเป็นสิ่งจำเป็น ชีวิตสามสิบปีที่ผ่านมาไม่เคยมีที่ใดบนโลกที่น่าเบื่อน้อยกว่าบนหลังเสือ

เขาอยากจะมองความรักของพวกเขาเป็นเหมือนกับอะไรที่อยู่นอกเหนือกาลเวลา คาดหวังว่าพวกเขาอาจจะได้ตกหลุมรักกันและกันต่อให้พบกันภายใต้สถานการณ์อื่น เวลาอื่น  แต่ไม่ว่ามันจะเป็นแบบนั้นจริงหรือไม่ พวกเขาก็ได้พบกันที่ MIS นี่แล้ว  หากมันง่ายเพียงดีดนิ้ว เขาคงไม่ลังเลที่จะหนีไปไกลแสนไกลกับคริสอีกต่อไป

.

.

(15)     เฝ้าไข้

.

ยามที่ป่วยหรือบาดเจ็บ ออสบอร์นไม่ได้รู้สึกสบายใจกับการอยู่คนเดียวจริง ๆ หรอก เขาไม่แน่ใจว่านั่นเป็นการเห็นแก่ตัวหรือไม่เมื่อต้องการให้คริสอยู่ด้วย

ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขารู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่เวลาอยู่กับคริส  ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยเชื่อเสียทีเดียวหรอกว่าความรักในแบบที่คริสมีให้เขาจะมีอยู่จริง – ไม่เชิง อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในโลกสีเทา แต่แล้วมันก็มีอยู่จริง

ในวันที่ลืมตาตื่นมาแล้วรู้สึกได้ว่าร่างกายไม่เต็มที่นัก ก็ยังถือว่าเป็นวันที่ดีเมื่อได้อยู่ด้วยกัน

.

.

.

TBC.

Posted in Prompt, Writing

[30 Day Couple Challenge: Day Six – Day Ten] A Love Story: เปลี่ยนแปลง

Image

Source: NanJi

Entry นี้เป็นส่วนหนึ่งของ
.
.
.
Rating: PG
.

.

.

.

.

.

(6)     หอมแก้ม

.

แก้มของคริสนุ่ม อุ่น—เขาเต็มเปี่ยมไปด้วยสัมผัสแห่งการมีชีวิต คริสเป็นคนที่มีชีวิตชีวานะ และสดใสมากกว่าผม

บางครั้งผมหอมแก้มเขา แล้วหอมซ้ำตรงลักยิ้ม  เมื่อก่อนผมหอมแก้มใครไม่บ่อยและคงไม่มีทางปล่อยให้ใครหอมซ้ำ ๆ แบบที่เขาทำ… มีหลายสิ่งที่เปลี่ยนไปมากเหลือเกิน ผมปรับตัวไปกับทุกย่างก้าว ผมเห็นดวงไฟจุดสว่างเพิ่มขึ้นในทุกฝีเก้า และมันก็ส่องสว่างสดใสเรืองรองจนไม่อยากให้มันต้องหายไปเลย

ผมชอบเวลาที่ผมหอมแก้มเขา แล้วถนอมลักยิ้มนั้นไว้ได้

.

.

(7)     สวมรองเท้า

.

ผมสวมรองเท้าเพียงข้างเดียวช่วงที่ขาหัก  เมื่อได้กลับมาสวมรองเท้าทั้งสองข้างพร้อมกันอีกครั้ง พื้นรองเท้าข้างหนึ่งก็สึกกว่าอีกอันพอสมควร เดินแล้วรู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย ผมเลยทิ้งรองเท้าคู่นั้นไป

เวลาผ่านไป ผมพบคุณแมงมุมที่คริสเป็นคนบอกให้คุณวิคเตอร์ติดไว้กับรองเท้าคู่นี้

เวลาล่วงเลยไปอีก รองเท้าคู่ใหม่ก็ไม่อาจถือว่าใหม่ได้อีกต่อไป

เช้าบางวัน ผมสวมรองเท้า แล้วใจเต้นอยู่คนเดียว หวนคิดไปว่าเพิ่งเมื่อวานนี้เองที่เขาจูบเท้าของผม

.

.

(8)     ป้อนขนม

.

อันที่จริงผมเป็นคนที่ทานขนมได้เรื่อย ๆ  เหมือนกับว่ามันเป็นเมนูที่หากมีให้ทานก็ทาน หากไม่มีก็ไม่เสียดาย—ผมรู้สึกเช่นนี้กับหลายสิ่งหลายอย่าง… มาเป็นเวลานาน

คริสดูมีความสุขเวลาป้อนขนมให้ผมนะ ตอนแรกผมไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่เมื่อได้ลองป้อนขนมให้เขา ผมก็เริ่มเข้าใจเอง  โดยทั่วไปแล้ว ผมไม่ได้ต้องการเพื่อนทานอาหารด้วยกันเป็นพิเศษ แต่ผมต้องการเขาเป็นพิเศษ  เพราะฉะนั้น ถึงได้มีความสุขกับสิ่งที่ดูเผิน ๆ อาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อย

.

.

(9)     ดื่มน้ำแก้วเดียวกัน

.

คริสให้ความสุขกับผม ความสุขที่ครั้งหนึ่งไม่ใช่สิ่งที่ผมแสวงหาในชีวิต เป็นดั่งน้ำหล่อเลี้ยง  ผมไม่เคยรู้ว่าผมลืมดื่มน้ำมานานมาก จิตวิญญาณของผมซูบแห้งและกำลังจะตาย และผมก็ไม่เคยรู้ว่าน้ำคือปัจจัยที่ขาดหายไป  หากคริสโตเฟอร์ แบลงค์ไม่พยายามส่งแก้วน้ำมาให้ผมแต่แรก ผมคงเฉาตายไป โดยที่ไม่มีทางได้รู้ว่าความสุข—ความสุขบริสุทธิ์ของความรักนั้นก็มีค่า

เขากล่าวขอบคุณผมบ่อยครั้ง อันที่จริงแล้วหลายสิ่งที่ผมพยายามทำ ก็คือการเติมน้ำในแก้วที่ผมได้รับมาจากเขา แล้วแบ่งให้เขาดื่ม

.

.

(10)     ให้ช็อกโกแล็ต (วาเลนไทน์)

.

ผมว่าช็อกโกแล็ตแฮนด์เมดน่ะอร่อยเสมอ ก็เลยสั่งซื้อมาแบ่งกัน เขาคงจะชอบ (ล่ะมั้ง)  ช็อกโกแล็ตบางชิ้นในกล่องที่ผมเลือกมาเป็นรูปหัวใจ (ผมบอกตัวเองว่าไม่เห็นจะต้องเขินมากมาย)  เป็นแบบนี้แล้วชวนให้นึกถึงวันวาเลนไทน์เลย แต่ไม่เป็นไรหรอก  ถ้าผมจะซื้ออะไรมาแบ่งกันทานกับเขา จะเป็นวันไหนก็ได้

พอช็อกโกแล็ตส่งมาถึง ผมก็ไม่กล้าให้ทันที แต่แล้วก็เอามาให้เขาในเวลาอันสั้น… ถ้าเก็บไว้นาน ๆ ก็เกรงว่ากลิ่นหอม ๆ ของมันจะหายไป

(ดีจังที่ได้ให้)

.

.

.

.

.

.

TBC.

Posted in Prompt, Writing

[30 Day Couple Challenge: Day One – Day Five] A Love Story: สัมผัส

Image

Source: NanJi

Entry นี้เป็นส่วนหนึ่งของ
.
.
.
Rating: PG
Author’s Note: แหกกฎไปตามประสา (ฮา) เราจะทำในกี่วันก็ไม่รู้ แต่คงอัพให้ครบ 30 ข้อเรียงตามลำดับไปอย่างซื่อสัตย์ แต่มโนเขียนบิดเบือนไปจากหัวข้อบ้างถ้าไม่มีอะไรมาหนุนให้เขียน อ่ะเอิ๊กส์ XD (เช่นว่าหมอออสยังไม่เคยมีวาเลนไทน์ด้วยกัน แต่ดันเคยให้ช็อกโกแล็ตนะ พอเขียนได้ในจุดนั้น) เริ่มทำเพราะอยากทำ ไม่ได้วาด fanart นานและไม่ถนัดวาดนักเลยมาเขียน drabble แทน ซึ่งก็พยายามคงให้เป็นประมาณ 100 คำต่อหัวข้อ เกินบ้างพอดีบ้าง แต่ไม่น้อยกว่า 100 คำเนะ

.

.

.

.

.

.

(1)     จับมือ

.

มือของคริสหนากว่า และมีแผลเป็นเล็ก ๆ ให้เห็น  มือของผมผอมกว่าผู้ชายส่วนใหญ่ และด้านเป็นบางจุด

มือของผมมักจะเย็น มือของเขามักจะอุ่น

มือของเขามักจะอุ่น (สำหรับผม)

(สำหรับผม)

มือของคนทั่วไปอุ่นขนาดนี้หรือไม่… ผมไม่รู้อีกต่อไปแล้ว และไม่ปรารถนาจะรู้ – พวกเรามีสัญญา สัญญาตั้งแต่ก่อนที่พวกเราจะเป็นคนรักกันเสียด้วยซ้ำว่าผมจะไม่ให้คนอื่นแตะตัวผมอีก มือของเขาเคยทำอะไรที่ผมไม่ชอบ—

บัดนี้ผมจับมือเขาราวกับมันเป็นสิ่งที่นิ้วของผมเพรียกหาโดยธรรมชาติ

.

.

(2)     กอดแขน

.

ผมกอดแขนของเขาเป็นครั้งคราว บางครั้งมันคล้ายกับจะเป็นการอ้อน (ที่เขาเป็นคนสอนให้รู้จัก)  แต่ส่วนใหญ่อาจจะเป็นเพราะมันค่อนข้างอุ่น

(ตัวของเขาอุ่นอยู่ตลอด)

การกอดแขนมีบางอย่างใกล้เคียงกับการกอดกัน การกอดแขนคือตัวผมที่เป็นฝ่ายกอดยื้อส่วนหนึ่งของตัวเขาเอาไว้ ยื้อแขนที่สามารถโอบรอบตัวผมได้อย่างพอดิบพอดียิ่งกว่าใคร การที่ผมใช้แขนสองข้างกอดแขนเพียงข้างเดียวของเขาจะทำให้เขารู้สึกอุ่นมากไหม อุ่นใกล้เคียงกับที่เขาทำให้ผมรู้สึกอุ่นรึเปล่า

.

.

(3)     โอบไหล่

.

เมื่อคริสโอบไหล่ผม ผมจะเข้าไปใกล้ขึ้น หรืออย่างน้อยก็รู้สึกว่าอยู่ใกล้ขึ้น อยู่ใกล้กันมากกว่าเดิม  บางทีก็มีเสียงแว่วลึก ๆ อยู่ในหัวว่า “คริส ผมอยากอยู่ใกล้กว่านี้”

ผมไม่เคยอยากอยู่กับใครใกล้ถึงเพียงนี้มาก่อนเลย ไม่เคยอยู่กับใครใกล้ขนาดนี้มาก่อนเลย เป็นความรู้สึกหนักที่ไหล่มากกว่าปกติ แต่ก็ไม่ใช่น้ำหนักที่ผิดแผกแปลกปลอม เป็นน้ำหนักของมือและแขนที่มีสิทธิ์จะได้อยู่บนไหล่ของผม

.

.

(4)     โอบเอว

.

หนึ่งปีที่แล้ว ไม่มีใครโอบเอวผมทั้งนั้น และไม่มีใครที่ผมต้องการให้โอบเอวทั้งนั้น  เพียงหนึ่งปีที่แล้ว ผมคงไม่เอื้อมมือไปโอบเอวใครโดยที่ไม่หยุดคิดก่อนได้ แต่กับเขามันเป็นไปตามธรรมชาติ  ผมไม่จำเป็นต้องคิดว่าเวลานี้ผมควรเลื่อนมือไปโอบเอวของเขาหรือไม่ อย่างไร  ผมเพียงแค่รู้ว่าผมจะทำ ถึงได้ทำ

เวลาที่คริสโอบเอวของผม ผมจะตระหนักถึงความผอมบางของตัวเอง—ไม่จำเป็นว่าจะเป็นทางกาย ผมเพียงแต่ผอมบางเหลือเกิน… สำหรับสัมผัสที่มีตัวตนอันยิ่งใหญ่ในจิตใจของผม

.

.

(5)     จูบเรือนผม

.

ผมเคยจูบเส้นผม จูบศีรษะของเขาบ่อยครั้ง คริสบอกว่าเขาไม่เคยย้อมผมเลย นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมของเขาถึงนุ่มนิ่มคล้ายคลึงกับผมของเด็ก

คริสอายุน้อยกว่าผมหนึ่งปี ผมจะรู้สึกเหมือนเขาอายุน้อยกว่าผมจริง ๆ ก็ในเวลาที่ได้จุมพิตเส้นผมของเขา เหมือนกับว่าผมได้ดูแลเด็กน้อย ได้ปลอบโยนหรือให้ความรักกับเด็กคนหนึ่งอยู่

ถึงอย่างนั้นเวลาที่พวกเราอยู่ด้วยกัน ก็คล้ายเป็นเด็กไปครึ่งหนึ่งได้แล้วกระมัง

.

.

.

.

.

.

TBC.