Posted in Writing

[RP] Side story 4: บันทึกเก่า

Entry นี้เป็นส่วนหนึ่งของ

Notes:

  • สิ่งที่เชอร์ลีย์เคยเขียนเกี่ยวกับกัปตันคนเก่า บางคนอาจจะคุ้นผลงานพวกนี้จาก page ของจขฟช.  จริง ๆ แล้วที่คัดมาก็คือสิ่งที่เขียนตอนได้แรงบันดาลใจมาจากแถว ๆ เชอร์ลีย์นั่นเอง
  • เป็นการรวบรวม drabble สั้น ๆ  อาจดูไม่ปะติดปะต่อกันเป็นพิเศษ T – T”

Word count: 1,045

.

.

.

ข้าหลงรักบุรุษผมแดงยาว เขาเป็นเสมือนลูกคิดสำหรับจิตคณิต ส่วนข้าเป็นเพียงคนอวดดีที่อยากเป็นภาพในล็อคเก็ตหากเขาเป็นล็อคเก็ต และอยากเป็นลูกบิดประตูหากเขาเป็นธรณีประตู ข้าอยากเป็นผู้ที่พร้อมที่จะสละดวงตาและแขนขาให้ทันทีที่เขาเอ่ยปากเพียงคำเดียว

เขาจะรับรู้ขอบเขตการปกป้องของข้า

ความลับเล็ก ๆ ของเราคือการไม่มีความลับต่อกัน

_

ข้าได้ยินเสียงหัวใจของท่าน ที่ตรงนี้

ท่านผู้เป็นดวงใจของข้า ท่านผู้เป็นพู่กันของสี เป็นสีของผ้าใบ เป็นผ้าใบของศิลปิน เป็นศิลปินของภาพวาด เป็นภาพวาดของความสุข เป็นความสุขของศิลปะ และเป็นชีวิตของข้า

_

Dear Sir,

I offer you the two greatest human emotions: love and fear. For I have loved you for long, and I have great fear of losing you. This fear, however, urges me run faster to you, Sir. Why reject Fear? As before the face of Fear, I can fly to you without looking back. It gives me the power and control.

Forever Yours,

S.

_

ถึง: เจ้ามักจะกอดข้าแน่นเกินไป จุมพิตข้าเบาเกินไป บอกรักข้าบ่อยเกินไป

ข้อความ: ข้าชอบตาตุ่มที่ข้อเท้าของท่าน และรอยบุ๋มใต้ลำคอที่อยู่ระหว่างไหปลาร้าของท่าน

จาก: ข้ามองตาท่านครั้งแรก เมื่อห้าปีที่แล้ว

_

ท่านผู้เป็นที่รัก

พวกเราจูบกันน้อยครั้ง และหลายครั้งในน้อยครั้งเหล่านั้น พวกเราก็จูบกันอย่างอ่อนเบา ก่อนที่ข้าจะจับมือท่านขึ้นมาจูบข้อนิ้ว ปลายจมูกของพวกเรามักจะสัมผัสกัน แล้วอยู่แบบนั้นนิ่งนานในที่ที่ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครได้ยิน

ครั้นพวกเราสามารถอยู่ด้วยกันได้ในที่ที่ไม่จำเป็นต้องหลีกหนีสายตาใคร ท่านก็ถูกคลื่นพายุพรากไปเสียอย่างนั้น

_

ท่านคามิลเลียสที่รัก

ดิเอลโลเรียช่างแห้งแล้งเสียเหลือเกิน ข้านึกสงสัยว่าท่านจะมีวันมาที่ทะเลทรายนี่กับข้าไหม ด้วยท่านดูมีพลังที่สุดเมื่ออยู่กับน้ำและความชุ่มชื้น – ในยามที่ท่านอยู่กับสายฝนและคลื่นมหาสมุทร ท่ามกลางไอน้ำในอ่างน้ำร้อน หรือละอองทะเลจากกราบเรือยามเช้าที่พวกเราอยู่ด้วยกัน ท่านมักจะดูเหมือนบุตรแห่งห้วงสมุทร หากได้เห็นท่านท่ามกลางผืนทรายนี่คงแปลกตาน่าดู

น่าเสียดายที่บัดนี้ข้าไม่อาจอยู่เคียงข้างเพื่อบอกราตรีสวัสดิ์ท่านทุกคืน และจุมพิตอรุณสวัสดิ์กับท่านทุกเช้าได้

ข้าอยากตามท่านไป

ด้วยรัก

เชอร์ลีย์

_

นายท่านที่รัก—

ข้าคิดถึงลมหายใจของท่านที่ปลายจมูกของข้า หากธรรมชาติผู้เป็นมารดาแห่งมวลมนุษย์มิได้พรากท่านไปจากข้า เราอาจได้ใช้เวลาในฤดูเหมันต์นี้ด้วยกัน หากมีใครทำนายว่าข้าจะตายในฤดูนี้ ข้าคงเชื่อเขา มีความเป็นไปได้ว่าความตรอมตรมอาจฆ่าข้าได้… กระนั้นข้าก็อาการดีพอที่จะมาเขียนสิ่งนี้แล้ว

ท่านจำได้ไหมเมื่อครั้งที่เรานอนเคียงข้างกัน แล้วท่านบอกว่าภรรยาของท่านตั้งครรภ์ ในคืนนั้นข้าเกือบกลับไปหาฝิ่น ข้านึกถึงฝิ่นก่อนกัญชา ด้วยฤทธิ์ของฝิ่นปลอบโยนความเศร้าได้ดีกว่ากัญชา กัญชาเหมาะกับความโกรธ แต่แล้วท่านก็จับข้าได้คาหนังคาเขา แล้วไม่อนุญาตให้ข้าได้สร้างสรรค์อารมณ์ของตัวเองด้วยสารเย้ายวนเหล่านั้น ทว่าในที่สุดแล้ว ภริยาของท่านกลับจากไปพร้อมลูกเมื่อถึงกาลคลอด ข้าจำสีหน้าท่านยามมาบอกข่าวร้ายนั้นกับข้าได้ ดวงหน้าท่านดูซีดขาวอย่างเห็นได้ชัดแม้ในแสงสลัว

กระนั้นแม้ถึงกาลที่ท่านจะมิใช่ของนางในนาม ท่านก็ยังมิใช่ของข้า มิมีบาทหลวงคนใดให้ข้าสาบานความรักของตนที่มีต่อท่านได้ และข้ามิแน่ใจว่าจะมีเทพองค์ใดเข้าข้างข้า ท่านผู้เป็นที่รัก โปรดนึกภาพตัวท่านและข้าในอาภรณ์สีขาว และแหวนบนนิ้วนางที่เราสวมมอบให้กัน หากข้าสามารถมอบสิ่งเหล่านั้น—มิใช่ในฐานะบุรุษคนหนึ่ง หากเป็นในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง—โดยไม่ต้องทำลายฐานะและครอบครัวของท่านลงก็คงจะดีใช่น้อย บางทีหากเราอยู่ที่อื่นที่ไกลออกไปในมวลดาว พวกเราอาจรักกันโดยไม่ต้องหลบซ่อนเช่นนี้ได้

ข้าบอกว่าข้าจะรักท่านตราบสิ้นลมหายใจ แล้วเหตุใดลมหายใจท่านจึงสิ้นสุดไปก่อนเสียเล่า ดวงใจของข้า

_

Master,

Do you know that feeling which resembles sandpaper? I couldn’t quite explain. It’s rough and dry. If you drag your hand too quickly over it, it’ll burn your skin.

—Where was I going with this? Never mind. I’m speaking gibberish, but there is really no one else I’d rather talk to. I love you most.

_

เจ้ามีความฝันมายาวนาน มีความสุขมายาวนาน เชื่อในความสุขมายาวนาน ในที่สุดเจ้าก็เลือกที่จะทิ้งทั้งหมดในผืนทะเลทรายแห่งดิเอลโลเรีย แล้วเจ้าก็ลืมไปสิ้นว่า—นั่นสิ เจ้าลืมอะไรไปนะ เจ้าตอบตัวเองมิได้เสียแล้ว เจ้ารู้เพียงว่า การมองความสุขเป็นเป้าหมายนั้นคือความผิดพลาด ด้วยรู้ดีว่าการที่ครั้งหนึ่งเคยมี แล้วเสียไป แล้วหวังจะได้มันอีกนั้น… ทำให้เจ้าเกือบเอาชีวิตไม่รอด

ใครว่าความตรอมใจฆ่าใครไม่ได้ มันเกือบฆ่าเจ้า และถึงเจ้าจะไม่สนหากตัวเองจะตายไป เจ้าก็ยังไม่อยากตายหรอก

เจ้าคิดขึ้นมาได้ว่า ทะเลอาจมีอะไรมาเสนอให้เจ้าได้อีก

_

M’dear,

The rain won’t last, they said.

Keep silence and stay strong, they said.

What is strength, and what lasts, anyway?

Love,

Yours.

.

.

.

The End.

Leave a comment